พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ตั้งแต่พุทธศักราช 2502 เป็นต้นมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริ กิติ์พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกระชั บสัมพันธไมตรีกับประเทศต่าง ๆ ทั้งในยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย และ เอเชีย และได้เสด็จพระราชดำเนิ นไปทรงเยี่ยมราษฎรในภูมิภาคต่ างๆ ทุกภาคทรงประจักษ์ในปั ญหาของราษฎรในชนบทที่ดำรงชีวิ ตด้วยความยากจน ลำเค็ญและด้อยโอกาส ได้ทรงพระวิริยะอุตสาหะหาทางแก้ ปัญหาตลอดมาตราบจนปัจจุบัน อาจกล่าวได้ว่า ทุกหนทุกแห่งบนผืนแผ่นดินไทยที่ รอยพระบาทได้ประทับลง ได้ทรงขจัดทุกข์ยากนำความผาสุ กและทรงยกฐานะความเป็นอยู่ ของราษฎร ให้ดีขึ้นด้วยพระบุญญาธิ การและพระปรีชาสามารถปราดเปรื่ อง พร้อมด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล ทรงอุทิศพระองค์เพื่อประโยชน์สุ ขของราษฎร และเพื่อความเจริญพั ฒนาของประเทศชาติ ตลอดระยะเวลาโดยมิได้ทรงคำนึ งประโยชน์สุขส่วนพระองค์เลย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู ่หัว ได้พระราชทานโครงการนานั ปการมากกว่า 2,000 โครงการ ทั้งการแพทย์สาธารณสุข การเกษตร การชลประทาน การพัฒนาที่ดิน การศึกษา การพระศาสนา การสังคมวัฒนธรรม การคมนาคม ตลอดจนการเศรษฐกิจเพื่อประโยชน์ สุขของพสกนิกรในชนบท ทั้งยังทรงขจัดปัญหาทุกข์ ยากของประชาชนในชุมชนเมือง เช่น ทรงแก้ปัญหาการจราจรอุทกภั ยและปัญหาน้ำเน่าเสียในปัจจุบัน ได้ทรงริเริ่มโครงการการช่ วยสงเคราะห์ และอนุรักษ์ช้างของไทยอีกด้วย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู ่หัว ทรงตรากตรำพระวรกายทรงงานอย่ างมิทรงเหน็ดเหนื่อย แม้ในยามทรงพระประชวร ก็มิได้ทรงหยุดยั้งพระราชดำริ เพื่อขจัดความทุกข์ผดุงสุขแก่ พสกนิกร กลางแดดแผดกล้าพระเสโทหลั่งชุ่ มพระพักตร์ และพระวรกายหยาดตกต้องผืนปฐพี ประดุจน้ำทิพย์มนต์ชโลมแผ่นดิ นแล้งร้าง ให้กลับคืนความอุดมสมบูรณ์นั บแต่เสด็จเถลิงถวัลยราชตราบจนปั จจุบัน
แม้ ในยามประเทศประสบภาวะเศรษฐกิจ ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2539 เป็นต้นมา ก็ได้พระราชทานแนวทางดำรงชีพแบบ “เศรษฐกิจพอเพียง” และ “ทฤษฎีใหม่” ให้ราษฎรได้พึ่งตนเอง ใช้ผืนแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สู งสุดประกอบอาชีพอยู่กินตามอั ตภาพซึ่งราษฎรได้ยึดถือปฏิบัติ เป็นผลดีอยู่ในปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู
แม้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น